10เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ”ต๋อง ศิษย์ฉ่อย”

10เรื่องน่าสนใจบนทาง 30 ปีในแวดวงสนุกเกอร์ของ “ต๋อง ลูกศิษย์ฉ่อย” หนึ่งในตำนานนักสนุกเกอร์ของไทย
จบสิ้นนักสอยคิวขวัญใจคนไทย “ต๋อง ลูกศิษย์ฉ่อย” หรือรัชพล ภู่โอบอ้อม วัย 44 ปี ข้างหลังแพ้ให้กับอเล็กซ์ บอร์ก จากมอลต้า 9-10 เฟรม จากแข่งสนุกเกอร์สะสมคะแนนระดับอาชีพโลกรายการในที่สุดของปี “ดาฟาเบท เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ”ตอนวันที่ 10 เม.ย.ก่อนหน้าที่ผ่านมาในเมืองเชฟฟิลด์ อังกฤษ
เป็นที่แน่ๆแล้วว่าซีซันหน้า จะมิได้เล่นอาชีพโลก เพราะร่วงมาอยู่ชั้น 67 ซึ่งคิวโลกจะคัดเลือกเอาไว้ 64 ขั้นตอนแรกเพียงแค่นั้นถึงจะเล่นอาชีพถัดไปได้
30 ปีบนทางนักสอยคิว ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่าชื่อของเขาไม่ต่างกับตำนานอันยิ่งใหญ่ของแวดวงสนุกเกอร์ประเทศไทย สร้างสีสัน กิตติศัพท์เกียรติศักดิ์มากมายก่ายกองแก่ชาติ
นี่เป็น 10 เรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับ “ต๋อง ลูกศิษย์ฉ่อย” หนึ่งในตำนานนักสนุกเกอร์ไทย
- ต๋อง ลูกศิษย์ฉ่อย มีชื่อจริงว่าวัฒทุ่งนา ภู่โอบอ้อม (ถัดมาเปลี่ยนแปลงชื่อเป็นรัชพล) กำเนิดตอนวันที่ 17 เดือนมกราคม พุทธศักราช 2513 เรียนฝึกหัด แล้วก็ติดตามมองบิดาเกิดขึ้นเกล้าเล่นสนุกเกอร์มาตั้งแต่เล็กๆถึงกับขนาดจำต้องชูลังเครื่องดื่มมาให้ยืนแทงบนโต๊ะสักหลาด
- สมญานาม ต๋อง ลูกศิษย์ฉ่อย มาจากบิดาเกิดขึ้นเกล้า โกวิน ภู่โอบอ้อม นักสนุกเกอร์อาชีพ สมญานาม ฉ่อย ซู่ซ่าส์ นั่นเอง
- สร้างชื่อคราวแรก ข้างหลังครอบครองรางวัลรองชนะเลิศจากการประลองชนิดดาวรุ่งของวารสารคิวทองคำ เมื่อพุทธศักราช 2527 ขณะอายุเพียงแต่ 14 ปีแค่นั้น
- เคยเป็นนายแบบขึ้นปกวารสารคิวทองคำ ฉบับการเริ่มต้น แมกกาซีนสนุกเกอร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศไทยของ ‘คิวทองคำ’ ศักดิ์ รัตนสุบรรณ เมื่อปี 2528
- เทิร์นโปรเมื่อปี 2532 ข้างหลังคว้าชัยชนะรายการสนุกเกอร์สมัครเล่นโลกที่ออสเตรเลีย ด้วยวัยเพียงแต่ 18 ปี ชื่อที่ฝรั่งเรียกว่า “เจมส์ วัฒนา” ดังระเบิดเถิดเทิงในทันที อีกทั้งได้สมญานามใหม่จากคนประเทศไทยว่า ‘ไทยทอร์ท้องนาโด’ ส่วนในต่างแดนเรียกว่า ‘Thai Phoon’ (อ่านออกเสียงเสมือนคำว่า Typhoon – พายุไต้ฝุ่น) เพราะว่าไต่ชั้นขึ้นมาอย่างเร็วราวกับไต้ฝุ่น และกรรมวิธีเล่นอันถูกต้อง ฉับไว
- เป็นนักกีฬาสนุกเกอร์จากภูมิภาคทวีปเอเชียคนแรกที่ไปถึงเป้าหมายสำหรับการเล่นสายอาชีพ เคยขึ้นสูงสุดถึงชั้น 3 ของโลกในฤดูกาลปี 1994/95 ด้อยกว่าเพียงแค่สตีเฟน เฮนดรี้ และก็สตีพ เดวิสแค่นั้น
- เป็นนักสนุกเกอร์ผู้ที่ 8 ของโลกซึ่งสามารถทำเงินรางวัลได้มากกว่า 1 ล้านปอนด์ ตอนนี้สามารถทำรายได้ทั้งหมดทั้งปวงจากการประลองอาชีพ 1.75 ล้านปอนด์
- ตอนปีพุทธศักราช2531-2536 ตอนพีคสุดๆที่เรียกว่ายุคต๋องฟีเวอร์ ผู้คนต่างหันมาพอใจกีฬาสอยคิว สถานเริงรมย์หลายที่ไม่ว่าจะเป็นโรงหนัง โรงโบว์ลิ่ง ต่างปรับสถานที่เป็นที่เล่นสนุกเกอร์กันหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “เจ้าแม่ช่อง 7 สี” เหล้างค์ เปรมปรีดิ์ สั่งให้มีการถ่ายทอดสดครั้งใดก็ตามต๋องลงในสนาม
- สร้างความตะลึงงันด้วยการแทง Maximum Break(แนวทางการทำแต้ม 147 แต้ม สำหรับเพื่อการแทงไม้เดียว)สำหรับการแข่งกับ โทนี่ ดราหรูหรา นักสนุกเกอร์ชาวมอลต้า เมื่อปี 2533 กระทั่งแปลงเป็นแมตช์ในความจำมาจนถึงทุกวันนี้ ช่วงเวลาเดียวกันสามารถทำ Century Break (วิธีการทำแต้มได้ตั้งแต่ 100 แต้ม ขึ้นไปสำหรับเพื่อการแทงไม้เดียว) มากยิ่งกว่า 140 ครั้งในชีวิตการเล่น
- “สนุกเกอร์สร้างพวกเรามาได้ มันก็ทำให้พวกเราลงได้ ด้วยเหตุดังกล่าวอย่าไปติดยึดอะไรมากสักเท่าไรนัก มองดูให้มันปกติ นี่แหละชีวิตมันเป็นอย่างงี้เอง ทุกสิ่งมันไม่เที่ยง แต่ก่อนเคยแทงกี่ลูกก็ลง แต่ว่าในตอนนี้ไม่ลง อ้าว ก็อายุเอ็งมากมายแล้วนี่ ก็เป็นปกติ จะไปออกคิวอย่างเดิมได้ยังไง หากทำเป็น แล้วเด็กรุ่นใหม่มันจะไปรุ่งได้ยังไง ถ้าเกิดเอ็งยังอยู่ตลอดระยะเวลาแบบนี้ ไม่มีผู้ใดอยู่ยาวนานตลอดกาลหรอก มันก็ควรมีคลื่นลูกใหม่ ไล่คลื่นลูกเก่า ไม่เช่นนั้นโลกพวกเราจะก้าวหน้าหรอ ถูกไหมครับผม” ต๋อง ลูกศิษย์ฉ่อยเคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ภายในวารสาร Aday Bullentin เมื่อปี 2009 ถึงความจริงของชีวิตที่ได้จากการเป็นนักสนุกเกอร์อาชีพ